[Read] สัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ เพิร์ธ ธนพนธ์ Exclusive English Interview with Perth Tanapon หลายคำตอบที่ไม่เคยรู้มาก่อน #StarStruckMediaxPerth #PerthTanapon #KDPPE
July 23, 2022 at 8:19 pm
--><--
StarStruckMediaOfficial - #StarStruckMediaxPerth
พิธีกร/ล่าม : สวัสดีครับคุณเพิร์ธเป็นยังไงบ้างครับ
เพิร์ธ : ก็สบายดีครับ
พิธีกร/ล่าม : เริ่มต้นแสดงคุณเพิร์ธไปไงมาไงถึงเริ่มแสดงครับ
เพิร์ธ : จริง ๆ น่าจะตั้งแต่ 8 - 9 ขวบครับ มันมีโฆษณามาก่อนอะไรแบบนี้ครับ ก่อนที่เรามาแบบเล่นซีรีส์อะไรอย่างนี้คือก่อนหน้านั้นผมมีถ่ายโฆษณามาก่อนเป็นจุดเริ่มต้นถึงค่ออยมาเริ่มเล่นซีรีส์ค่อยมามีผลงานทางด้านนี้ครับ
พิธีกร/ล่าม : ก่อนอื่นเวลาได้บทอะไรอย่างนี้ครับจะเตรียมตัวอย่างไงบ้างครับ
เพิร์ธ : จริง ๆ ก็มีอ่านบทครับเพราะว่าน่าจะทุกคนก็จะได้บทมาก่อนแล้วก็พยายามจะศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตัวละครที่เราได้รับว่าเขาเป็นคนยังไงบุคลิกนิสัยเนื้อเรื่องเป็นยังไงก็พยายามจะอ่านบทในรอบแรกให้หมดก่อนเพื่อจะได้รู้ว่าตัวละครเป็นยังไง
พิธีกร/ล่าม : อย่างคุณเพิร์ธทำการ Method Acting ไหมครับทำเหมือนกับว่าเราเป็นตัวละครอะครับแม้ว่าเราไม่ได้แสดงอยู่ก็ตามเหมือนกับเราอยู่ในโลกจริงใช้ชวิตประจำวันแต่เราก็ทำนิสัยให้เหมือนกับตัวละครของเราคือทำอย่างนั้นบ้างไหมครับ
เพิร์ธ : มีเคยครั้งหนึ่งครับแต่ผมว่าวิธีนี้มันอาจจะไม่ได้เหมาะกับผมขนาดนั้นผมรู้สึกว่าเหมือนมันใช้จิตใจมากเกินไปอะไรแบบนี้ เลยว่าวิธีนี้มันไม่..ค่อนข้างที่จะไม่ค่อยเวิร์กกับผมเท่าไหร่ครับ ก็เลยไปใช้วิธีอื่นแทน
พิธีกร/ล่าม : คุณเพิร์ธเคยเป็นไหมครับแบบว่าใช้ชีวิตประจำวันไปเรื่อย ๆ แต่อยู่ดี ๆ เหมือนกับตัวเองทำท่าทีมีนิสัยเหมือนกับตัวละครแทนตัวเองขึ้นมาครับคืออาจจะไม่ได้เพื่อการฝึกอะไรแต่ว่าเหมือนกับอยู่ดี ๆ เป็นเองอะไรอย่างนี้อะครับ
เพิร์ธ : คือมันอาจจะมีว่าแบบซีนดราม่าแบบนี้ครับเวลาช่วงแบบ 3 ทุ่ม 4 ทุ่ม (21.00 - 22.00 น.) ใกล้เลิกกองล่ะแล้วมันเป็นแบบซีนที่เราต้องร้องไห้แล้วต้องหงุดหงิดอะไรสุด ๆ แบบนี้ครับ แต่จริง ๆ คือผมเป็นคนที่พอเราจบกองปุ๊บผมก็จะทิ้งแต่มันก็จะมีเหมือนกับเสี้ยวอารมณ์ของอันหนึ่งอะครับพอเวลาเรากลับบ้านมาเราก็จะยังมีความรู้สึกที่หงุดหงิดอยู่แต่ตัวละครเราก็ปล่อยทิ้งไว้ที่กองล่ะกลับบ้านมาก็ปล่อย
พิธีกร/ล่าม : มีดาราคนไหนที่ในประเทศไทยที่อยากทำงานด้วยอีกหรือเปล่าครับ
เพิร์ธ : ที่ยังไม่เคยใช่ไหมครับ
พิธีกร/ล่าม : ใช่ครับที่ยังไม่เคยแสดงด้วยแต่ว่าอยากแสดงด้วย
เพิร์ธ : เอ่อ..พี่โอมครับ แล้วก็พี่ชิม่อน นนน อะไรพวกนี้ครับ ("โอม ภวัต" "ชิม่อน วชิรวิชญ์" และ "นนน กรภัทร์")
พิธีกร/ล่าม : มีนักแสดงคนอเมริกาไหมครับที่อยากไปแสดงด้วยครับถ้ามีโอกาสได้ไปแสดงที่นู้นด้วยเลยอยากไปแสดงด้วยมีใครบ้างครับ
พิธีกร/ล่าม : จริง ๆ ผมชอบ 2 คนครับที่ดูตั้งแต่เด็ก ๆ เลย อัล ปาชิโน (Alfredo James Pacino) และ ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ (Leonardo DiCaprio)
เพิร์ธ : มีใครไหมครับที่เคยทำงานร่วมกันแล้วแบบชอบมากแล้วอยากกลับไปร่วมงานกันด้วยอีกอะครับ
พิธีกร/ล่าม : จริง ๆ หลายท่านมากนะครับ แต่น้องแฟร์รี่แล้วกันครับ ค่อนข้างที่จะน้องส่งบทดีด้วยอะไรอย่างนี้ครับ อยากลองเล่นบทอื่นดู (แฟร์รี่ กิรณา พิพิธยากร Fairy Kirana Pipityakorn จากเรื่อง 50% My Puppy Love)
เพิร์ธ : มีบทละครหรือว่าบทบาทอันไหนที่แบบเป็นบทบาทในความฝันไหมครับที่ไม่เคยเล่นแต่ว่าอยากลองเล่นมาก ๆ ว่าอยากเป็นคนนี้อะไรแบบนี้ครับ
พิธีกร/ล่าม : จริง ๆ อยากเล่นเป็น โรแมนติก แล้วก็แนวแบบ แก๊งสเตอร์ หน่อยครับ
เพิร์ธ : เพราะผมชอบดูหนังแบบแก๊งสเตอร์ตั้งแต่เด็กครับหนังแบบ The Godfather อะไรอย่างนี้ผมชอบมาก
พิธีกร/ล่าม : แล้วอยากเป็นแบบหัวหน้าแก๊งหรือว่าอยากเป็นลูกน้องแก๊งครับ
เพิร์ธ : อุ๊ย..ด้วยอายุครับแค่ระดับลูกน้องก่อนครับ
พิธีกร/ล่าม : เวลาแสดงพวกฉากโรแมนติกอะครับเวลาแสดงพวกฉากพวกนี้รู้สึกเหมือนมีผีเสื้อในท้องไหมครับหรือว่าแยกแยะได้เลยว่าอันนี้คือแสดงแล้วอีกอันคือโลกจริง
เพิร์ธ : คือจริง ๆ ด้วยสมมติถ้าเราหลุดเป็นตัวละครอะครับพี่มันก็จะมีความรู้สึกนั้นที่เรารักตัวละครนั้นจริง ๆ หรือว่าความรู้สึกที่เหมือนกับอะไรปั่นป่วนอยู่ข้างในฮะ เวลาเล่นสมมติว่าเราหลุดไปเป็นตัวละครนั้นเลย
พิธีกร/ล่าม : แล้วตอนที่ได้บทนำครั้งแรกเลยอะครับมีปฏิกิริยาเป็นยังไงบ้างครับ
เพิร์ธ : ดีใจมากครับเพราะว่าด้วยหนึ่งเป็นเหมือนกับความฝันเราตั้งแต่เด็กเราอยากทำงานตรงนี้อะไรแบบนี้ครับก็รู้สึกตื่นเต้นแล้วก็ดีใจครับบวกกับประหม่าไปด้วยพร้อม ๆ กันฮะว่าเราจะทำได้หรือเปล่ากับงานแรกแบบนี้ครับ
พิธีกร/ล่าม : ตอนได้บทนำครั้งแรกเป็นความรู้สึกที่แบบประมาณว่ารู้เลยว่าอันนี้ยังไงก็ต้องได้คือยังไงอันนี้ไม่ได้เป็นบทของคนอื่นแน่นอนหรือว่าพอได้บทแล้วประหลาดใจว่าแบบบทนี้เป็นบทของเราเหรออะไรอย่างนี้ครับเป็นความรู้สึกยังไงบ้าง
เพิร์ธ : อันแรกครับถ้าเรื่องแรกเลยรู้สึกประหลาดใจครับว่ามันถึงที่เราได้บทนำแล้วเหรออะไรแบบนี้ฮะ มันมีความแบบตื่นเต้นเราก็ประหลาดใจครับว่ามันจริงหรือเปล่าที่เราได้จริง ๆ
พิธีกร/ล่าม : เวลาเข้ากองถ่ายหนังกับกองถ่ายพวกละครซีรีส์มีความแตกต่างอะไรกันบ้างไหมครับ
เพิร์ธ : คือถ้าบรรยากาศในกองมันก็ไม่ได้แตกต่างกันครับแต่ส่วนผมชอบภาพยนตร์มากกว่าด้วยเรื่องระยะเวลาแล้วก็สองเลยหนิคือมันค่อนข้างที่จะเรียลมาก ๆ แล้วก็ถ่ายวันหนึ่งเหมือนไม่ค่อยเยอะครับด้วยด้วยจำนวนซีนครับเคยเจอหนังถ่ายวันหนึ่งประมาณ 4 - 5 ซีนมันก็จะทำได้ถึงจุดที่เราตั้งไว้ได้สูงกว่าซีรีส์แบบนี้ครับ ซีรีส์มันมีตัวอะไรที่บีบเข้ามาอะไรแบบนี้ครับ แต่จริง ๆ ก็คือดีทั้งคู่ฮะ
พิธีกร/ล่าม : ตอนนี้คุณเพิร์ธก็แสดงมาได้สักระยะหนึ่งแล้วนานแล้วเหมือนกันก็คืออยากรู้ว่าสำหรับตัวคุณเพิร์ธเองถ้าคำนิยามของคำว่าการแสดงคืออะไรครับแบบประมาณว่าอะไรคือการแสดงคิดว่าในนิยามของตัวเองเป็นยังไงบ้างครับ
เพิร์ธ : เอ่อ..นิยามมันก็คือสำหรับผม...
พิธีกร/ล่าม : ใช่เหมือนกับความหมายว่าคิดว่าการแสดงคืออะไรอย่างนี้ครับ
เพิร์ธ : สมมติถ้าสำหรับผมนะก็คือเหมือนกับชีวิตเราเลยครับด้วยผมเลือกเดินอาชีพทางนี้แล้วมันก็กลายเป็นแบบงานประจำของผมมันก็คือตอบคำถามเลยมันเหมือนกับชีวิตของชีวิตผมทั้งชีวิตนี้เลย
พิธีกร/ล่าม : อะไรคือบทที่ยากที่สุดที่แบบแสดงตีบทให้แตกแสดงให้สำเร็จอะครับ ตอนนี้บทที่ยากที่สุดที่ทำมาคืออะไร
เพิร์ธ : จริง ๆ ยากพอ ๆ กันหมดเลยอะครับ แต่ละเรื่องก็จะมีความแตกต่างไปครับแต่ถ้ายากที่สุดน่าจะเป็น My Coach ครับเพราะว่าด้วยผมเป็นคนไม่ได้เต้นแล้วเราต้องมาเต้นหรือว่าการเตะฟุตบอลผมก็ไม่ได้เตะจริงจังก็ต้องมาปรับเปลี่ยนมีความยากอยู่
พิธีกร/ล่าม : ก็คือเหมือนกับทำสกิลที่ไม่เคยทำมาก่อนอะไรแบบนี้ใช่ไหมครับ
เพิร์ธ : ใช่ ๆ ครับ
พิธีกร/ล่าม : มีวิธีต้องเตรียมอะไรไหมครับเหมือนกับกิจวัตรในการเตรียมตัวอย่างไงบ้างไหมครับต้องทำอย่างนี้ก่อนเริ่มเหมือนกับเวลาไม่เคยเล่นฟุตบอลเนี่ยกลับไปตอนอยู่บ้านเนี่ยคือลองหัดซ้อมเล่นอะไรอย่างนี้บ้างหรือเปล่าครับ
เพิร์ธ : มีครับมันจะมีระยะเวลาก่อนที่เราจะถ่ายทำประมาณ 3 - 4 เดือนแรกครับที่เราต้องไปเรียนเพิ่มในส่วนนั้นครับว่าอย่างเรื่องนี้เราต้องเตะบอลนะเตะบอลกับโค้ช หรือว่าเรื่องที่เราต้องเต้นก็จะมีครูสอนเต้นมาสอนเราในช่วงประมาณ 3 - 4 เดือนแรก
พิธีกร/ล่าม : จากบทที่เล่นมาทั้งหมดมีบทไหนที่ชอบที่สุดไหมครับ
เพิร์ธ : ถ้าชอบที่สุดน่าจะเป็นตัวละคร "บ้ง" ครับในบอกโลกฯครับ (บอกโลกให้รู้ว่ากูรักมึง TellTheWorldILoveYou) ด้วยผมชอบคาแรกเตอร์ของตัวละครมากที่ได้อ่านบทตอนแรก
พิธีกร/ล่าม : แล้วก็ชอบอะไรของตัวละคร "บ้ง" บ้างครับ
เพิร์ธ : ด้วยหนึ่งมีความเป็นผู้ใหญ่ครับแล้วก้มีเส้นทางชีวิตที่ไม่ได้เหมือนคนทั่วไปแบบนี้ครับผมก็เลยชอบตัวละคร "บ้ง" มาก ๆ
พิธีกร/ล่าม : นอกจากแสดงแล้วทั้งคู่เห็นว่าคุณเพิร์ธชอบร้องเพลงแล้วก็เล่นดนตรีด้วยแล้วก็เคยเห็นว่าเล่นกีต้าร์ตั้งแต่อายุ 8 ขวบซึ่งก็คือแบบน่าทึ่งมาก ๆ ถือว่าเก่งมาก ๆ เลยก็คืออยากรู้ว่าไปมายังไงถึงได้เริ่มร้องกับเล่นดนตรีด้วยละครับ
เพิร์ธ : จริง ๆ ถ้าย้อนกลับไปก่อนสมัยก่อนผมจะเล่นดนตรีมาอย่างเดียวเลยครับพวกอิเล็กโทนแล้วก็กีต้าร์แบบนี้ครับแต่เป็นคนไม่ได้ชอบร้องเพลงครับ ไม่เคยร้องเพลงมาก่อนจนได้มาเล่นซีรีส์ครับ แล้วมีตามงานอะครับก็คือเขาอยากให้เราร้องเพลงก็เลยได้เริ่มร้องเพลงมาเรื่อย ๆ จนก็รู้สึกว่าชอบแบบนี้แล้วก็ทำมาเรื่อย ๆ
พิธีกร/ล่าม : ก็คือตอนที่คุณเพิร์ธได้เข้า GMM ทั้งคู่ก็แบบตื่นเต้นมากเพราะว่าแบบรู้ว่าแบบ GMM ก็ยิ่งใหญ่มากดังมากในไทยนะครับ ก็เลยอยากรู้ว่าตอนที่คุณเพิร์ธได้เข้าเนี่ยคิดว่าจะได้อะไรจากการที่ได้ร่วมงานกับบริษัทใหญ่ขนาดนี้บ้างครับ
เพิร์ธ : จริง ๆ ก็ได้ถึงความท้าทายใหม่ ๆ งานที่เราอาจจะยังไม่เคยทำ บทบาทที่อาจจะยังไม่เคยได้รับอะครับ ก็อาจจะได้รับโอกาสจากที่ GMMTV ครับก็รู้สึกดีใจมาก ๆ ที่ได้เข้ามาแล้วก็ขอบคุณผู้ใหญ่ทุก ๆ ท่านที่นี่มากครับ
พิธีกร/ล่าม : ทั้งคู่เนี่ย (พิธีกร) เขาก็ชอบดูเรื่องของ GMMTV อยู่แล้วพอเห็นว่าคุณเพิร์ธแบบว่าเป็นนักแสดงที่ชื่นชอบมากอยู่แล้วพอได้เข้าร่วมเนี่ยเขาแบบตื่นเต้นมาก ๆ เลยอยากเห็นมากเลยว่าผลงานจะออกมาเป็นยังไงบ้างครับ
เพิร์ธ : ขอบคุณมากครับ (ไหว้)
พิธีกร/ล่าม : เพลงแบบไหนครับที่เป็นเพลงแรงบันดาลใจเพลงแนวไหนที่เป็นแรงบันดาลใจให้เหมือนกับคุณเพิร์ธเป็นเหมือนกับผู้สร้างอะไรอย่างนี้มากขึ้นอะครับผม
เพิร์ธ : คือจริง ๆ อาจจะยังไม่ได้ทำตามแนวที่เราชอบครับด้วยมันอาจจะเป็นโปรเจกต์ ๆ ไปที่ได้ทำมาก่อนอะครับแล้วก็อาจจะเป็นเพลงกับซีรีส์แบบนี้ฮะซึ่งเราอาจจะใส่แนวที่เป็นตัวเราไม่ได้มากที่สุดครับ แต่ถ้าแนวที่ผมชอบที่สุดนี่คือแนวร็อกครับที่ ๆ แบบชอบมากที่อยากทำแต่ยังไม่ได้มีโอกาสที่จะลองทำขนาดนั้นครับแต่ก็แบบคิดว่าอนาคตก็ยังอยากจะฝึกทางด้านนี้ไป
พิธีกร/ล่าม : ทั้งคู่ (พิธีกร) ซื้อแน่นอนครับรอคอยเลยแบบประมาณว่าเพลงร็อกนี่เข้ากับทั้งหน้าตาเสียงการเล่นดนตรีเข้ากันมากแน่นอน
เพิร์ธ : (ไหว้)
พิธีกร/ล่าม : คุณเพิร์ธค้นพบการร้องเพลงเลนดนตรีการแสดงเนี่ยค้นพบได้ยังไงครับ
เพิร์ธ : มันเกิดจากการที่เราเริ่มทำก่อนครับแล้วก็รู้สึกหลงรักกับสิ่งที่เราทำไปแบบนี้ อย่างเช่น ดนตรีแบบนี้ตอนแรกก็ไม่ได้ชอบแต่เหมือนกับพ่อแม่เราก็ให้เราไปเรียนครับจนแบบรู้สึกว่าเริ่มชอบกับเสียงดนตรีแล้วเราก็ฟังเพลงมาตั้งแต่เด็กทุกวันก็เลยเริ่มชอบ ส่วนการแสดงเราก็ได้มาลองทำแล้วเราก็ค่อยรักมันขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้ครับตอนแรกก็แบบไม่ได้รู้สึกชอบขนาดนั้นแต่พอทำไปเรื่อย ๆ ก็รู้สึกรักมากขึ้น
พิธีกร/ล่าม : ที่คุณเพิร์ธบอกว่าพ่อแม่จับไปเรียนดนตรีใช่ไหมครับอันนั้นคือจุดเริ่มต้นที่เริ่มเรียนกีต้าร์หรือว่าเริ่มชอบกีต้าร์เลยหรือเปล่าครับ
เพิร์ธ : ไม่ครับครั้งแรกผมเรียน อิเล็กโทน
พิธีกร/ล่าม : แล้วก็เปลี่ยนไปเป็นเล่นกีต้าร์ยังไงครับ
เพิร์ธ : คือเรามาค้นพบครับคือจริง ๆ พ่อแม่ตอนเด็กเขาอยากให้ผมเล่นเพราะว่าเขาไปโบสถ์บ่อยใช่ไหมครับแล้วเขาเห็นคนเล่นเด็กมันเล่นน่ารักดีแบบนี้เขาก็อยากให้เล่นแต่เราไม่ได้รู้สึกชอบขนาดนั้นอะครับแต่มันก็คือเป็นจุดเริ่มต้นแล้วก็พื้นฐานของตัวโน๊ตดนตรีจนมาต่อยอดเป็นกีต้าร์ในอนาคตที่ผมเริ่มชอบเริ่มไปฟังเพลงร็อกแล้วแบบอยากเล่นกีต้าร์เหมือนกับพวกพี่ ๆ เขาบ้างก็เลยไปเริ่มเรียน ตอนแรกเป็นอูกูเลเล (Ukulele) ก่อนครับ
พิธีกร/ล่าม : เจ๋งสุด ๆ เลยครับมีอะไรที่เล่นไม่ได้ไหมครับเขาถาม
เพิร์ธ : อย่างละนิดครับนิด ๆ หน่อย ๆ
พิธีกร/ล่าม : ถ้าแบบมีโอกาสได้แสดงสดในเมืองไหนก็ได้ครับอยากแสดงที่เมืองไหน
เพิร์ธ : เยอะมากครับหลายประเทศมากครับที่แบบชอบมากครับอยากเล่นที่ นิวยอร์ก ก็อยากเล่นครับ
พิธีกร/ล่าม : ใครเป็นเหมือนกับนักร้องหรือนักดนตรีที่เป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเองที่สุดครับ
เพิร์ธ : Jimi Hendrix ครับ
พิธีกร/ล่าม : แล้วถ้าเกิดมีโอกาสได้แสดงหรือว่าเล่นดนตรีกับใครสักคนมีใครที่แบบยังไงต้องอยากเล่นด้วยให้ได้
เพิร์ธ : จริง ๆ อยากเยอะครับแต่เขาไม่อยู่กันหมดแล้วอะครับ
พิธีกร/ล่าม : มีอะไรจากคนในวงการเดียวกันครับรุ่นก่อน ๆ ที่เราได้เรียนรู้จากเขาบ้างไหมครับไม่ว่าจะแสดงหรือดนตรีก็ตามครับ
เพิร์ธ : ส่วนใหญ่น่าจะเป็นแสดงครับก็ผมก็ได้เรียนรู้จากรุ่นพี่มาทุก ๆ เรื่องอะครับเพราะในหนึ่งเรื่องเนี่ยเราก็จะมีคนที่ประสบการณ์เยอะกว่าเราแบบนี้ครับเขาก็จะคอยให้คำแนะนำเราเราก็จะพยายามดึงเก็บมาใช้เผื่อที่จะอนาคตเราจะได้เอาจุดนี้ไปใช้ได้ต่อ
พิธีกร/ล่าม : สมมติว่าเราเนี่ยเอามือถือของคุณเพิร์ธมาแล้วก็เปิดแบบเปิดรายชื่อเพลงเนี่ยครับเพลงไหนที่จะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งที่ฟังบ่อยสุด ณ ตอนนี้เป็นเพลงที่แบบฟังซ้ำ ๆ เรื่อย ๆ เยอะที่สุดเลย
เพิร์ธ : ตอนนี้มีอยู่เพลงหนึ่งที่ผมฟังบ่อยมากครับมันเป็นภาษาอิตาลีครับผมเรียกไม่ถูกเหมือนกันครับ วงชื่อ Måneskin - ZITTI E BUONI
พิธีกร/ล่าม : ตอนนี้ชอบซีรีส์เรื่องอะไรครับเอาเป็นซีรีส์อเมริกันที่ดูเยอะที่สุดในตอนนี้ครับ
เพิร์ธ : Stranger Things
พิธีกร/ล่าม : ไลล่าเขาบอกยังไม่ได้เริ่มดูเดี๋ยวเขาต้องไปเริ่มดู
เพิร์ธ : สุดยอดมันมาก
พิธีกร/ล่าม : หลังจากที่ถ่ายทำมาทั้งวันเลยเหนื่อย ๆ กลับบ้านมาอยากทำอย่างแรกเลยคืออยากทำอะไร
เพิร์ธ : ลงน้ำครับ พอเราได้กลับมาอาบน้ำมันเหมือนกับรีแลกซ์ทิ้งความเหนื่อยล้าไปอะไรแบบนี้
พิธีกร/ล่าม : ไม่ได้อาบน้ำอ้างใช่ไหมฮะมีบับเบิ้ลอะไรแบบนี้ด้วย
เพิร์ธ : สลับกันบ้างครับ
พิธีกร/ล่าม : อะไรเป็นอย่างสุดท้ายที่ทำให้คุณเพิร์ธได้ยิ้ม
เพิร์ธ : นี่ครับตอนนี้ครับ
พิธีกร/ล่าม : มีดาราที่แอบชอบไหมจะไทยหรืออเมริกันก็ได้
เพิร์ธ : Anya Taylor-Joy จากเรื่อง The Queen’s Gambit
พิธีกร/ล่าม : เธอเจ๋งมาก ๆ ได้ดูทั้งเรื่องเลยไหมครับ
เพิร์ธ : ดูทั้งเรื่องเลยน่ารักมากครับ
พิธีกร/ล่าม : เขาเล่นในเรื่อง Peaky Blinders ด้วยครับก็คือไปลองดูเรื่องนั้นเขาก็แสดงทั้งเรื่อง
เพิร์ธ : ได้ดูถึงตอนที่ 5 ครับ
พิธีกร/ล่าม : คิดว่าตัวเองเป็นคนที่ชอบตอนเช้าหรือชอบตอนกลางคืนมากกว่าครับเป็นคนตื่นกลางคืนหรือว่าตื่นตอนกลางวันมากกว่า
เพิร์ธ : คือจะตื่นช่วง 10.00 น. ครับแต่เป็นคนชอบช่วงเวลากลางคืนมากกว่ารู้สึกว่ามันได้ความคิดสร้างสรรค์อะไรมาจากตอนนั้นแล้วก็รู้สึกว่ามันเงียบดีครับทุกอย่างมันเป็นโลกของเราแล้วไม่มีความวุ่นวายไม่มีความพลุกพล่านอะไรทั้งสิ้นชอบกลางคืนมากกว่า
พิธีกร/ล่าม : ตอนนี้คุณเพิร์ธมีเป้าหมายอะไรครับเอา 2 เป้าหมายที่อยากให้ทำสำเร็จในปีนี้ไม่ว่าจะเป็นเรียนภาษาใหม่หรือว่าจะแบบเล่นดนตรีหนึ่งในล้านอันที่คุณเพิร์ธอาจจะเล่นเป็นอยู่แล้ว
เพิร์ธ : จริง ๆ ปีนี้ก็คืออยากจะทำผลงานให้ทุกคนได้ดูกันครับในปีนี้ที่ทำไว้แล้วจริง ๆ ก็มีที่ตั้งเป้าไว้แล้วก็ได้ออนแอร์ไปแล้วหนึ่งอัน (My Coach) แล้วก็โปรเจกต์ที่เราจะได้ทำกับ GMMTV แบบนี้ครับที่ตั้งเอาไว้ ณ ตอนนี้
พิธีกร/ล่าม : ถ้าคุณเพิร์ธไม่ได้แสดงหรือว่าร้องเพลงคิดว่าอาชีพในความฝันอันอื่นจะเป็นอะไรครับ
เพิร์ธ : หลายอย่างมากเลยครับมีแต่งรถครับ ช่างยนตร์ แล้วก็มีมือกีต้าร์ครับที่อยากทำนะครับพี่
พิธีกร/ล่าม : เห็นว่าชอบรถเหรอครับชอบรถอะไรมากที่สุดครับ
เพิร์ธ : ชอบมากที่สุด BMW
พิธีกร/ล่าม : ฉันชอบ McLaren แต่ BMW ก็ดีเหมือนกัน
เพิร์ธ : เอาไว้ตั้งไว้บนหิ้งครับแตะไม่ถึง
พิธีกร/ล่าม : ใช่เข้าใจได้เลย ฮ่า ๆ
พิธีกร/ล่าม : ถ้าพรุ่งนี้ไปเยี่ยมที่ไหนก็ได้บนโลกนี้อยากไปที่ไหนครับ
เพิร์ธ : เบอร์ลินครับ
พิธีกร/ล่าม : มีที่ไหนในเบอร์ลินไหมครับที่อยากไปเยี่ยมครับ
เพิร์ธ : จริง ๆ ผมอยากไปถนนออโต้บาห์นอะครับ แล้วก็เมืองลิเวอร์พูลอีกทีหนึ่ง
พิธีกร/ล่าม : มีอะไรเป็นพิเศษที่อยากให้คนดูหรือคนรู้จักในฐานะสิ่งนั้นไหมครับไม่ว่าจะเป็นในฐานะนักแสดงหรือว่าในฐานะนักดนตรีอะไรอย่างนี้มีอะไรแบบอยากให้คนดูหรือคนบนโลกนี้จำเราได้ครับว่าคนนี้เพิร์ธนักแสดงคนนี้อะครับมีอะไระเป็นแบบนี้ไหมครับ
เพิร์ธ : จริง ๆ ผมก็พยายามที่จะเป็นตัวเองให้มากที่สุดชีวิตจริงอะครับ พยายามไม่ได้ปรุงแต่งหรือปรับปรุงอะไร คือเราชอบอะไรเราหรือว่าเราอยากทำอะไรเราก็จะทำสิ่งที่เราชอบอย่างนี้ในชีวิตของเรา แล้วก็อยากจะเป็นนักแสดงที่ดีที่จะให้ทุกคนได้เห็นผลงาน
พิธีกร/ล่าม : มีอะไรที่ชอบทำเหมือนกับเพราะความชอบตัวเองส่วนตัวไหมครับแบบเพื่อสนุกที่ไม่ใช่แบบร้องเพลงหรือว่าแสดง
เพิร์ธ : ชอบขับรถครับหนึ่งเลย แล้วก็สองเนี่ยก็คือผมมีเรียกว่ากิจวัตรเยอะมากเลยครับ สมมติถ้าเราว่างคืออยู่สุขไม่ได้ครับแต่ชอบทำกิจกรรมในบ้านนะครับ ถ้าเราว่างจะไม่ค่อยไปไหนอย่างเช่นวาดรูปแบบนี้ฮะก็จะมีบ้างช่วงหนึ่งเราชอบเราก็วาดรูปอย่างเดียวเลย หรือว่าขัดรองเท้าครับ ผมมีรองเท้าหนังเยอะ น้ำยาตัวนี้มันจะลงยังไงขัดยังไงให้มันเงา
พิธีกร/ล่าม : อันนี้พิเศษมากครับไม่เคยได้ยินมาก่อน อันนั้นพอทำแล้วเหมือนกับเรารู้สึกผ่อนคลายด้วยหรือเปล่าครับแบบอยู่กับรองเท้าขัดมันไปเรื่อย ๆ อะไรอย่างนี้หรือเปล่าครับ
เพิร์ธ : คือสมมติถ้าแบบเป็นสิ่งไหนที่ผมชอบอะฮะ ผมจะศึกษาไปถึงแก่นมันเลยครับ แล้วเราก็รู้สึกว่าพอเวลาเราขัดไป เห้ย..เป็นเหมือนกับในสิ่งที่เราคิดดูตามคลิปก็รู้สึกว่าชอบมีความสุขมาก ๆ
พิธีกร/ล่าม : อย่างคนสเตฟานี่เขากลัวความสูงแล้วอย่างคุณเพิร์ธกลัวอะไรมากที่สุดเลย
เพิร์ธ : กลัวมากที่สุดน่าจะเป็นจิ้งจกกับตุ๊กแกครับน่ากลัวสุด ๆ เลยเมื่อคืนเพิ่งเจอไป
พิธีกร/ล่าม : ถ้าเกิดมีความสามารถพิเศษอะไรก็ได้อยากให้ตัวเองมีความสามารถพิเศษอะไร
เพิร์ธ : อืม..ทำอะไรก็ได้ครับอยากจะสร้างโลกก็สร้างได้ แล้วก็อยากหยุดเวลาทำในสิ่งที่เราชอบ บางช่วงเวลาเรารู้สึกว่าไม่อยากจะให้มันผ่านไปเร็ว เราก็อยากหยุดเวลานั้นเอาไว้
พิธีกร/ล่าม : สำหรับคุณเพิร์ธชอบซุปเปอร์ฮีโร่คนไหนมากที่สุด
เพิร์ธ : ไอรอนแมนแล้วกันครับ
พิธีกร/ล่าม : คุณเพิร์ธร้องเพลงระหว่างอาบน้ำไหมครับแล้วถ้าร้องเนี่ยร้องเพลงไหนบ่อยที่สุด
เพิร์ธ : มีบ้างครับมีบ้างตอนอาบน้ำบางทีมันว่างนะฮะ ปากเหงาก็มีร้องเพลงบ้าง ก็..แต่เพลงก็คือแรนด้อมไปเรื่อยครับมันเปิดอะไรมาเราก็ร้อง
พิธีกร/ล่าม : เขาเข้าใจครับเสียงอะคูสติกเวลาระหว่างอยู่ในห้องอาบน้ำเนี่ยกำลังก้องเลยเลยครับน่าจะดีสุดเลย
เพิร์ธ : ก้องเลยครับยิ่งกว่าร้องในคอนเสิร์ตอีกครับ
ช่วงเล่นเกมส์ : This or That Questions
1. เพลง✓ หรือ แสดง
2. Netflix✓ หรือ YouTube
3. แสดงในหนัง✓ หรือ แสดงในซีรีส์
4. บทซีเรียส✓ หรือ บทสนุก
5. รถยนตร์✓ หรือ มอเตอร์ไซค์
6. ทำอาหารเอง หรือ ให้คนทำอาหารให้✓
7. หนังสือ หรือ วิดีโอเกมส์ ✓ (ชอบ The Last of Us)
8. มองเห็นอนาคต✓ หรือ เปลี่ยนแปลงอดีต
9. หมา✓ หรือ แมว
10. โทร✓ หรือ ส่งข้อความ
11. Romance✓ หรือ Action
12. สยองขวัญ✓ หรือ ตลก
13. เผ็ด✓ หรือ ไม่เผ็ด
14. ของหวานก่อนอาหาร หรือ ของหวานหลังอาหาร✓
15. แต่งตัวดี✓ หรือ แต่งตัวชิลล์
พิธีกร/ล่าม : ก็ขอบคุณมาก ๆ นะครับที่มาร่วมสัมภาษณ์ในวันนี้นะครับก่อนปิดเนี่ยอยากจะมีข้อความอยากจะบอกอะไรกับแฟน ๆ ไหมครับ
เพิร์ธ : ขอบคุณทุกคนนะครับที่ติดตามกันมาตั้งแต่วันแรกนะครับ สัญญานะครับว่าจะพัฒนาต่อไปเรื่อยๆนะครับ แล้วก็อยากขอบคุณจริง ๆ นะครับที่ติดตามรักมาก ๆ ครับผม
พิธีการ/ล่าม : ก็ขอบคุณมาก ๆ นะครับก็คือจะรอคอยนะครับว่าจะมีผลงานอะไรออกมาบ้างแล้วก็จะคอยติดตามนะครับผม
เพิร์ธ : ขอบคุณครับ
#StarStruckMediaxPerth
Release : 220626 / Record Live : 220615
-->
<--